ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (Fire Suppression System) สำหรับ Data Center หรือ ห้อง Server
ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (Fire Suppression System) เป็นสิ่งที่สำคัญในห้อง Data Center หรือ ห้อง Server เมื่อมีเหตุการณ์ไฟไหม้ หากไม่มีระบบดับเพลิงที่สามารถทำงานทันทีเมื่อเกิดเหตุ อุปกรณ์ที่อยู่ภายในห้อง Data Center หรือ ห้อง Server จะถูกทำลายอย่างรุนแรงเช่น สาย Fiber , สาย Cable สื่อสาร , อุปกรณ์สื่อสาร (Switch, Server ) เป็นต้นระบบดับเพลิงอัตโนมัติ จะมีส่วนช่วยให้เหตุเพลิงไหม้สงบลง และ มีความเสียหายไม่รุนแรง
ส่วนประกอบของระบบดับเพลิงอัตโนมัติ
– ถังดับเพลิงบรรจุสารดับเพลิง
– สารที่ใช้ในการดับเพลิงสามารถใช้ได้ทั้ง Nitrogen(N2) และ Novec1230
– ตู้ควบคุมและสั่งการ
– อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ
– อุปกรณ์สั่งฉีดสารดับเพลิงแบบอัตโนมัต (Solinoid Valve, Nozzle)
– อุปกรณ์สั่งฉีดสารดับเพลิงแบบ Manual (Manual Station)
– อุปกรณ์แจ้งเตือน (Strobe/Horn, Alarm Bell)
– อุปกรณ์ยกเลิกการทำงาน (Abort Station)
การทำงานของระบบดับเพลิงอัตโนมัติ
-เมื่อมีควันไฟเกิดขึ้น อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) ที่ติดตั้งหากตรวจพบจะทำงาน แต่การทำงานตู้ควบคุมจะยังไม่สั่งให้อุปกรณ์ฉีดสารดับเพลิงทำงาน ทั้งนี้เพื่อป้องกันความผิดพลาด ระบบจะต้องตรวจจับควันไฟได้ 2 จุดของอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ตู้ควบคุมถึงจะสั่งอุปกรณ์แจ้งเตือนทำงาน แต่ในเวลาการส่งการแจ้งเตือนครั้งแรก อุปกรณ์ที่แจ้งเตือนคือ Bell ทำงานส่งสัญญาณเตือนเพื่อให้ทาง Admin ตรวจสอบการเกิดเพลิงไหม้ก่อนหากไม่แน่ใจว่าเป็นการเกิดเพลิง Admin สามารถทำการยกเลิก หรือ ทำการหยุดชั่วคราว เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ แล้วจึงตัดสินใจให้ระบบทำงานต่อไป หรือ สั่งฉีดสารด้วย Manual
– หากตู้ควบคุมไม่ได้รับคำสั้งให้หยุดการทำงาน ตู้ควบคุมจะทำการฉีดสารภายใน 60 วินาทีนับจากได้รับสัญญาณเพลิงไหม้ แบบ Cross Zone (ดังที่ได้กล่าวข้างต้น)
– เมื่อระบบฉีดสารดับเพลิงจะฉีดหมด ใน 10 วินาที
– แนวทางในการเลือกใช้สารดับเพลิง หากเป็น FM200 สารจะตกค้างในบรรยากาศ 34 ปีหากมีการฉีดสาร หากเป็น Novec 1230 จะมีสารตกค้างในบรรยากาศ 5 วัน และหากเป็น Nitrogen(N2) จะไม่มีสารตกค้างในอากาศเลย เนื่องจากเป็นก๊าซที่มีอยู่ในอากาศ (Dry Air) อยู่แล้ว
Very Early Smoke Detection Apparatus (VESDA)
ระบบตรวจจับควันไฟความไวสูง ที่สามารถตรวจจับควันไฟที่รวดเร็วกว่าระบบตรวจจับควันไฟทั่วไป
ระบบตรวจจับควันไฟความไวสูง คือ ระบบที่สามารถตรวจจับควันไฟที่รวดเร็วกว่า อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ (Smoke Detector) โดยปกติ อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ จะสามารถตรวจจับควันไฟได้เมื่อมีควันไฟหนาแน่นตามมาตราฐานการตรวจจับ แต่ระบบ VESDA จะสมารถตรวจจับควันไฟได้รวดเร็วกว่า อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ดังนั้น จะสามารถแจ้งเตือนเหตุไฟไหม้ได้รวดเร็วและช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถปฎิบัติต่อเหตุการณ์ที่กำลังเกิดได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนประกอบระบบ VESDA
-ตู้ควบคุมระบบตรวจจับควันไฟ
-Sample Point
-ท่อดักจับควันไฟ
การทำงานของระบบ VESDA
-ตู้ควบคุมจะทำการดูดควันไฟจาก Sample Point ที่ได้รับการติดตั้งตามจุดที่กำหนด
-ตู้ควบคุมจะตรวจอนุภาคที่ดูดเข้ามาเพื่อตรวจจับควันไฟด้วยกรรมวิธีของตู้ เช่น ระบบ Laser ก็จะใช้แสง Laser ยิงผ่าน อากาศที่ดูดเข้ามา เพื่อตรวจจับอนุภาค หากพบอนุภาคที่มีความหนาแน่นก็จะทำการแจ้งเตือน
-ด้วยอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ควันจะรอให้เกิดควันไฟหนาแน่น ก่อนที่จะอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟจะทำงาน แต่ระบบ VESDA จะทำการดูดอากาศเข้ามาเพื่อตรวจจับควันไฟ
-ดังนั้นการใช้ระบบ VESDA จะทำให้สามารถตรวจจับควันไฟได้รวดเร็วกว่า อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ
สารที่ใช้ในการดับเพลิงที่นิยมในปัจจุบันคือ Novec ™ 1230 และ Nitrogen(N2 หรือ IG-100)
Novec ™ 1230 เป็นของเหลวป้องกันไฟที่ได้รับการพัฒนามาแทนสารดับเพลิงฮาลอน ด้วยความสามารถในการดับไฟ และ เป็นสารสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ดีเยี่ยม ด้วยคุณสมบัติในการสลายตัวอย่างรวดเร็วโดยที่ Novec ™ 1230 สามารถสลายในบรรยากาศเพียง 5 วัน ดังนั้น Novec 1230 จึงไม่ทำลายโอโซนในบรรยากาศ ไม่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน สิ่งที่เป็นคุณสมบัติเด่นอีกประการหนึ่งคือ เป็นสารเคมีธรรมชาติที่ดับไฟ และ ไม่นำไฟฟ้า
FM200 เป็นสารเคมีที่พัฒนามาจาก สาร HALON ซึ่งมีข้อเสียคือไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม HALON FM200 ได้รับความนิยมให้ใช้ในการดับเพลิงเนื่องจากไม่มีอันตรายต่อผู้ใช้และสามารถสลายไปได้ แต่ใช้เวลาในการสลายนานถึง 34.6 ปี จึงไม่ค่อยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสักเท่าไร ประเทศไทยมีการใช้ FM200 อย่างแพร่หลายแต่ในอนาคตคงมีการยกเลิกการใช้หันไปใช้ Novec 1230 และ Nitrogen แทน
Nitrogen(N2 หรือ IG-100) เป็นก๊าซที่มีอยู่ในกาอาศที่เราหายใจเข้าไปอยู่แล้ว หากเกิดการฉีดสารดับเพลิงนี้ออกมา จะเรียกได้ว่าไม่มีสารตกค้างในชั้นบรรยากาศเลย รวมทั้งเป็นมิตรกับผู้คน ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับผู้คนในบริเวณที่มีการฉีดสาร(หากออกแบบปริมาณสาร และระบบที่เหมาะสม) ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และกำลังนำมาทดแทนสารดับเพลิงที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นอันตรายกับมนุษย์ เช่น FM200 และ Pyrogen เป็นต้น